การทำคอนเทนต์ Facebook ให้โดดเด่นในยุคที่เต็มไปด้วยโพสต์มากมายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้ารู้จักเลือกใช้รูปแบบคอนเทนต์ที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ทันที มาดูกันว่าในปัจจุบันมีรูปแบบคอนเทนต์อะไรบ้างที่สามารถช่วยให้โพสต์ของแบรนด์ปัง พร้อมแนวทางการทำคอนเทนต์ที่ช่วยให้ดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ!

คอนเทนต์ Facebook สีสันบนโลกออนไลน์

    Facebook โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มที่อยู่เคียงข้างผู้ใช้งานอย่างพวกเรามามากกว่า 20 ปีแล้ว พร้อมกับจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกที่มีมากขึ้นในทุกวัน เป็นพื้นที่อัปเดตข่าวสารต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันโดยที่ไม่จำเป็นต้องรอฟังรายการข่าวในโทรทัศน์ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนคู่กายยามเหงาที่มีโพสต์คอนเทนต์ Facebook มากมายผุดขึ้นมาให้เราได้เสพ เช่นคลิป Reel อย่างละครคุณธรรม รีวิวหนังสือหรือภาพยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมายเท่าที่ฟีเจอร์แอปฯ จะลองรับได้ นอกจากเป็นพื้นที่สำหรับเสพสื่อแล้ว ก็ยังเป็นพื้นที่ค้าขายทำการตลาดที่ดีและทำให้ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายด้วยเช่นกัน แล้วต้องทำคอนเทนต์ Facebook อย่างไรให้คนหยุดดู วันนี้เรามีตัวอย่างคอนเทนต์ปัง ๆ รวมถึงแนวทางการทำคอนเทนต์มาให้แก่ทุกคน

รูปแบบคอนเทนต์ Facebook

    ประเภทของคอนเทนต์ Facebook นั้นไม่ได้มีจำนวนนับที่ตายตัวแน่นอน เมื่อเวลาผันผ่านไปพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผนวกเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของผู้คน คอนเทนต์ที่สดใหม่ก็จะปรากฎมาให้เห็นมากขึ้น แต่มาดูกันก่อนดีกว่าว่าตอนนี้รูปแบบของโพสต์คอนเทนต์ Facebook มีอะไรบ้าง พร้อมไอเดียตัวอย่างคอนเทนต์ปัง ๆ

1. Real-Time คอนเทนต์
   เป็นคอนเทนต์อัปเดตสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความรวดเร็ว สำหรับนักการตลาดแล้ว ถือว่าเป็นวิธีเรียกยอด Engagement ที่ไม่ได้ยากนัก เพียงเลือกใช้เหตุการณ์ที่กำลังเป็นกระแสอยู่มาโยงเข้ากับสินค้าหรือแบรนด์ของตัวเองก็เพียงพอจะดึงคนมาได้แล้ว แต่ก็ต้องระมัดระวังในการทำเช่นกันเพราะไม่ใช่ทุกเรื่องที่เอามาสร้างคอนเทนต์ Facebook แล้วจะได้รับผลตอบรับที่ดีซ้ำยังอาจโดนมองในแง่ร้าย

• เหตุการณ์ Real–Time น่าทำ: งาน Talk หรืองานอภิปราย, หนังดังประกาศเข้าโรง, เพลงฮิตที่พึ่งปล่อย

2. Meme คอนเทนต์
   เป็นคอนเทนต์ที่จะสร้างมุกตลกของตัวเองขึ้นมาล้อเลียนแบรนด์หรือโปรดัคส์ของตัวเอง หรืออาจจะนำ Meme ที่กำลังเป็นกระแสมีคนใช้กันเยอะมาปรับใช้ในบริบทที่เข้ากันก็ได้เช่นกัน จะเป็นภาพนิ่ง ภาพชุดหรือวิดีโอภาพเคลื่อนไหวก็ได้ ซึ่งการทำคอนเทนต์แนวนี้จะช่วยกวาดเก็บ Engagement เข้ามาที่ตัวเราได้ การมอบหน้าที่นี้ให้กับคนรุ่นใหม่ก็จะช่วยให้เข้าใจคนใน Gen ปัจจุบันได้มากขึ้น

• ตัวอย่าง Meme น่าเล่น : กลอนไม่ต้องบินให้สูงเหมือนใครเขา, มีมสงครามราคา จากสงครามส่งด่วน, มีม ฉันก็เป็นมนุษย์เหมือนกับทุกคน จาก Superman ภาคล่าสุดที่เพิ่งเข้าโรง

3. วิดีโอคอนเทนต์
   การนำเสนอคอนเทนต์ Facebook ในรูปแบบวิดีโอทำให้มีการสื่อสารที่ง่ายและครบครันมากขึ้น ด้วยความที่เป็นภาพเคลื่อนไหวประกอบกับเสียงต่าง ๆ การสร้างฉากที่สื่อความหมายมากมาย จะช่วยดึงอารมณ์ผู้ชมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถทำ Re-targeting จากคนที่ดูวิดีโอได้ด้วย เพิ่มความแม่นยำการทำโฆษณาออนไลน์ขึ้นอีกขั้น

• ตัวอย่างแนววิดีโอ: โฆษณาประกันชีวิต, คลิป VTR แนะนำโครงการ, ละครคุณธรรม

4. คอนเทนต์ให้ความรู้
   การทำโพสต์คอนเทนต์ Facebook ไม่จำเป็นต้องใส่ความบันเทิงลงไปตลอด เพราะเราสามารถที่จะนำเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มาเขียนเล่าเรื่องได้ในเชิงของการให้ข้อมูลหรือให้ความรู้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งในการแอบขายของ นำเสนอสินค้าของตัวเองออกไปในช่วงท้ายสักเล็กน้อย

5. Interaction คอนเทนต์
   เป็นการสร้างคอนเทนต์ที่เน้นไปที่การสร้างความมีส่วนร่วมในโพสต์ กับผู้ที่เห็นโพสต์นั่นเอง เป็นกิจกรรมหรือแคมเปญหนึ่งให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้เข้ามามีส่วนร่วม ให้รู้สึกว่าแบรนด์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้รูปแบบกิจกรรมอาจจะเป็นเกมสนุก ๆ ตอบคำถามง่าย ให้มีการแชร์ หรือกดติดตาม แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวกิจกรรมด้วยว่าทำออกมาดีแค่ไหน

• ตัวอย่างแนวกิจกรรม: ทายภาพจากเงา, สร้างโพสต์รีวิวสินค้าแล้วลุ้นรับสิทธิ์, ตอบคำถามในช่องคอมเมนต์

แนวทางทำโพสต์คอนเทนต์ Facebook

1. สร้างคอนเทนต์คุณภาพ มีความรู้
   การนำเสนอคอนเทนต์ที่เป็นการสอดแทรกความรู้มักจะได้ผลตอบรับในทางที่ดี สำหรับผู้เริ่มต้นสร้างเพจขึ้นมาใหม่อาจเริ่มจากการทำคอนเทนต์แนวนี้ เพราะหากรับสารแล้วได้ประโยชน์ก็จะเกิดการแชร์ต่อ ทั้งนี้สำหรับคอนเทนต์บางประเภทที่เน้นความบันเทิงอาจไม่จำเป็นต้องยัดเยียดความรู้เข้าไปมากนัก แต่เน้นที่คุณภาพของงานก็เพียงพอแล้ว

2. ทำคอนเทนต์ในลักษณะของ Photo Album
   การนำเสนอในรูปแบบภาพ จะได้รับความนิยมมากกว่า text ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจัดเตรียมขนาดและแพทเทิร์นการลงรูป เพราะช่วยให้เข้าใจง่ายกว่า อ่านง่าย เข้าใจง่าย แต่จะไม่เหมาะกับคอนเทนต์ที่มีข้อมูลเยอะ ๆ เป็นต้น ต้องดูด้วยว่าคอนเทนต์ที่เราจะทำเหมาะกับการนำเสนอรูปแบบไหน

3. Video Content ช่วยดันยอดได้
   การมาของวิดีโอสั้นได้ทำให้การรับสารในโลกโซเชียลมีเดียมีการเปลี่ยนแปลงไป คนส่วนใหญ่หันมาเสพสื่อประเภทนี้มากขึ้น เนื่องจากความง่ายในการทำความเข้าใจและรวดเร็วด้วยความสั้นของมัน และด้วยความเป็นคลิปวิดีโอจึงสามารถสื่อารมณ์ได้กว่า

4. ตั้งคำถามปลายเปิด
   การตั้งคำถามปลายเปิดในหลาย ๆ ครั้งจะสามารถชวนผู้ชมจำนวนมากมาร่วมกันถกเถียงประเด็นที่ได้ตั้งทิ้งไว้ เป็นอีกแนวทางในการสร้าง Community และหากมีความน่าสนใจมากพออาจเกิดการแชร์ต่อออกไปเพื่อชวนคิด

5. ติดตามเทรนด์แบบ Real-time
   การทำ Real-Time คอนเทนต์จะช่วยสร้าง Awareness กับ Engagement ได้เป็นอย่างดี แต่การผูกโยงกระแสเข้ากับแบรนด์ต้องมีความระมัดระวังเพราะอาจถูกมองว่าต้องการขาย หรือโหนมากจนเกินพอดี

เริ่มทำคอนเทนต์ Facebook ด้วยมือเราได้แล้วตอนนี้

    ปัจจุบันผู้ใช้งาน Facebook มีจำนวนมากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะหยุดดูทุกคอนเทนต์ หลังจากได้เรียนรู้จากตัวอย่างคอนเทนต์ปัง ๆ ในอดีตแล้ว การผลิตคอนเทนต์ Facebook ที่มีคุณภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน และการเลือกใช้รูปแบบโพสต์ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ขณะนั้น และเป้าหมายที่ต้องการจากการลงคอนเทนต์นั้น ๆ เช่นเพิ่มความน่าเชื่อถือ เพิ่มยอด Engagement หรือ ยอด Coversion ทั้งนี้สำหรับคนที่สนใจทำการตลาดผ่านช่องทาง Facebook ก็ยังมีแนวทางและรูปแบบการทำโพสต์คอนเทนต์ Facebook เพิ่มเติมนอกเหนือจากบทความนี้อีกด้วย